aespa ยืนหนึ่งความซูเปอร์เฟมัส ระเบิดที่สุดแห่งความสนุกใน 2024 aespa LIVE TOUR – SYNK : PARALLEL LINE – in BANGKOK

aespa วงที่มาแรงยืนหนึ่งความซูเปอร์เฟมัสระดับโลก ระเบิดที่สุดแห่งความสนุกในเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 2 2024 aespa LIVE TOUR – SYNK : PARALLEL LINE – in BANGKOK ที่จัดให้ฟินกันทั้งหมด 2 รอบการแสดง เมื่อวันเสาร์ที่ 28 และวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2024 ณ อิมแพ็ค อารีน่า พิเศษสุดๆ คือคอนที่ไทยครั้งนี้ถือเป็นประเทศปิดทัวร์ครึ่งแรกของสี่สาว ก่อนจะไปทัวร์ต่อในอเมริกาและยุโรปช่วงต้นปี 2025 ที่แน่ๆ aespa มาไทยรอบนี้มาสร้างสถิติใหม่ในฐานะ ‘เกิร์ลกรุ๊ปเคป๊อปเจน 4 วงแรกที่สามารถจัดคอนเสิร์ต ณ อิมแพ็ค อารีน่าได้สำเร็จ 2 รอบการแสดง และบัตรหมดเกลี้ยงทันทีที่เปิดจำหน่าย’ รวมผู้ชมทั้งสิ้นกว่า 20,000 คน ไม่เรียกว่าเป็น ‘เบอร์ 1 เจน 4’ ไม่ได้ล้าววว

ก่อนคอนรอบวันเสาร์ ผู้จัดและต้นสังกัดในประเทศไทย SM True ได้จัดงานแถลงข่าวให้พี่ๆ สื่อได้พบปะตัวเป็นๆ ของ aespa ซึ่งทั้ง 4 สาว KARINA (คาริน่า), GISELLE (จีเซลล์), WINTER (วินเทอร์) และ NINGNING (หนิงหนิง) เดินเข้าห้องมาแบบส้วยยยยยในชุดคอนเส็ปต์ขาวล้วนที่เป็นชุดเปิดคอนเสิร์ตครั้งนี้ และนั่งพูดคุยอย่างเป็นกันเอง บอกเล่าความรู้สึกของการกลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง พร้อมเวิร์ลด์ทัวร์ครั้งที่ 2 ที่ได้การตอบรับชนิดที่เรียกว่าถล่มทลายจากมายไทย พี่น่าบอกว่าดีใจและเป็นเกียรติมากที่ได้รับความรักขนาดนี้ และหวังว่าครั้งหน้าจะได้อัพสเกลเล่นในที่ใหญ่ขึ้นไปอีก อ่ะ คนสวยขาพูดมาขนาดนี้ คอนหน้าต้องรัชมังฯ แล้วไหม เรื่องราวประทับใจเบื้องหลังมิวสิกวิดีโอเพลงไตเติ้ล Supernova ที่มาถ่ายในไทย, สปอยล์ผลงานใหม่ รวมถึงถ้ามีเวลาว่าง 1 วีคจะไปไหนทำอะไรกัน อันนี้สองหนิงตอบอย่างไม่ลังเลว่า “อยากไปหาหมูเด้ง” สมกับเป็นมัมหมีเบอร์ 1 โดยหลังจากจบการพูดคุย พิธีกรได้เรียนเชิญ คุณเทพ สินธวานนท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการ บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด ให้เกียรติมอบช่อดอกไม้แก่ศิลปิน และคุณพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าคณะผู้บริหารส่วนงานคอนเทนต์ ด้านกลยุทธ์ การลงทุน และพันธมิตรธุรกิจ เครือเจริญโภคภัณฑ์, บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด และกรรมการบริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด ถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกัน

ตัดฉับไปที่คอนเสิร์ตในช่วงเย็น 2024 aespa LIVE TOUR – SYNK : PARALLEL LINE – มาพร้อมคอนเส็ปต์เหมือนละครผ่านองค์ประกอบต่างๆ ที่เชื่อมโยงรายละเอียดอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อถ่ายทอดเอกลักษณ์และโลกทัศน์ที่ไม่มีใครเทียบของ aespa ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากโลกทัศน์ใหม่ของพวกเธอที่ขยายไปสู่โลกคู่ขนานที่มีหลากหลายด้าน ตั้งแต่วีซีอาร์โชว์ตัวตนที่แตกต่างกัน, เซ็ตลิสต์ที่เรียบเรียงดนตรีใหม่ และสเกลโปรดักชั่นที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งไหนๆ เวทีสวยมากกกกก ด้วยจอแอลอีดีทั้งเวทีกว่า 1,000 ตารางเมตร เวทีที่มาพร้อมลิฟต์รูปทรงบันไดจำนวน 11 ตัว สามารถยกขึ้นลงปรับเปลี่ยนรูปทรงได้กลากหลาย แล้วยังเป็นลิฟต์ที่มีจอแอลอีดีถึง 9 ตัว, สเปเชียลเอฟเฟกต์และไพโรเทคนิคต่าง ๆ, แสงเลเซอร์ตื่นตาตื่นใจ, ฉากโครงเหล็กสามมิติขนาดใหญ่ และรถเลื่อนที่สั่งทำพิเศษสำหรับประเทศไทย เพื่อให้สี่สาวได้ใกล้ชิดกับแฟนๆ ให้มากที่สุด

หลังจากวีซีอาร์เปิดตัวสมาชิกทั้งสี่ พร้อมประโยค “I’m the Drama” aespa ก็ปรากฏตัวบนเวทีกับเพลง Drama แล้วต่อด้วยเพลงเดบิวต์ Black Mamba ที่ท่าเต้นสวยเป็นเอกลักษณ์สมกับที่เป็นเพลงฮิตเพลงดัง ดูกี่รอบก็ประทับใจ, Salty & Sweet, Supernova อีกเพลงที่โชว์ดีมาก พลังมาเต็ม บรรยากาศในอิมแพคร้อนแรงขึ้นทันตา ปิดด้วย Mine ก่อนจะหยุดพักทักทายพูดคุยกับมายไทย แล้วต่อเนื่องกันไปเลยกับอีก 3 เพลง Thirsty, Prologue และความน่ารักในเพลง Long Chat (#♥) จากนั้นเข้าสู่ช่วงที่ชอบมากๆ และเป็นไฮไลต์หนึ่งของคอนเสิร์ต นั่นคือช่วงโซโล่สเตจของเมมเบอร์ทั้งสี่ ที่มาแบบโชว์คาแรกเตอร์ของใครของมันได้ชัดเจนมาก ตั้งแต่ Dopamine เพลงบัลลาดอาร์แอนด์บีฝันๆ หวานๆ ของ จีเซล ที่เจ้าตัวมีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้องและทำนอง สะกดทุกสายตาด้วยท่าเต้นสุดเซ็กซี่แบบฮ็อตเว่อร์, คาริน่า คนเท่มากับเพลงฮิปฮอปแด๊นซ์ฟีลโอลด์สคูล UP ที่เธอแต่งเนื้อร้องเองทั้งหมด ถ้าเมื่อกี้พี่กะเทยกรี๊ดสนั่นกับความแซ่บความฮ็อต เพลงนี้ก็คือน้องนีได้กรีดร้องกันแบบสุดพลังกับความเท่ค่อดของพี่น่า, Bored! เพลงอาร์แอนด์บีแด๊นซ์ที่ หนิงหนิง ร่วมแต่งเนื้อร้อง ทำเอาดื่มด่ำไปกับการร้องและความสวยชวนให้ตกหลุมรักแบบไม่เบื่อ ปิดท้ายด้วย Spark เพลงอีดีเอ็มของ วินเทอร์ ทีเธอมีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้องและทำนอง เป็นอีกเพลงที่โชว์โวคอลได้อลังการแบบตะลึงอ่ะบอกเลย

กลับเข้าสู่ช่วงรวมตัวอีกครั้ง เปลี่ยนบรรยากาศให้คึกคักไปกับเพลงเผ็ดร้อนอย่าง Spicy, เพลงที่มีท่าโพสกวนๆ เรียกรอยยิ้ม Licorice, เพลงแนวเทคโนกับท่อนแด๊นซ์แบทเทิลมันๆ Hold On Tight, เพลงอัลเทอร์เนทีฟร็อคในตำนาน 시대유감 (Regret of the Times) (2024 aespa Remake Ver.) ที่ตีความใหม่โดย aespa มากับการโชว์พลังเสียงและการแร็ป แล้วเซอร์ไพรส์กันต่อกับการที่สี่สาวแบ่งเป็น 2 ทีม ขึ้นรถเลื่อนทีมละคัน วนไปหาแฟนๆ รอบฮอลล์อย่างใกล้ชิดในเพลง Live My Life กับ We Go ช่วงนี้บอกเลยว่าเสียงกรี๊ดสนั่นหวั่นไหวทุกจุดที่รถเลื่อนวิ่งผ่าน จากนั้นเข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์เปิดอีกหนึ่งโลกทัศน์สุดล้ำด้วยเวทีโซโล่แจ้งเกิด Done ของ nævis ศิลปินเสมือนจริงคนแรกของค่าย SM Entertainment ก่อนจะยกระดับความร้อนแรงไปอีกเลเวล พร้อมจัดเต็มเสน่ห์ของ ‘รสชาติเหล็ก’ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ aespa กับความแข็งแกร่งทรงพลังในเพลงจังหวะดุอย่าง Trick or Trick, เพลงที่มีท่าเต้นสุดเท่เป็นไวรัล Set The Tone, เพลงเมกะฮิต Next Level และเพลงไตเติ้ลล่าสุด Armageddon ที่เอาดีๆ มายไทยเสียงดีเสียงดังเว่อร์ ทั้งร้องทั้งชานท์กันสนั่นทั้งคอนแบบน้องหนาวถึงกับพูดว่า “มายไทยเสียงดังที่สุดเป็นที่หนึ่งเลย” แต่สนั่นสุดๆ แบบต้องเรียกว่าดังทะลุฮอลล์ก็คือสองเพลงนี้แหละ

ช่วงระหว่างรออังกอร์มากับแด๊นซ์ชาเลนจ์เพลงฮิตต่างๆ ให้แฟนๆ ได้ร่วมเต้นขึ้นจอใหญ่กันอย่างสนุกสนาน แต่ละคนจัดเต็มลีลาการแด๊นซ์แบบพร้อมเดบิวต์เป็นเมมเบอร์คนที่ 5 ไม่เกินจริง เต้นกันเพลินๆ สี่สาวก็กลับขึ้นมาอีกครั้งกับเพลงสดใสอย่าง BAHAMA และโชว์การประสานเสียงร้องสดให้ฟังกันเต็มๆ ในเพลงบัลลาด 목소리 (Melody) ที่เป็นการส่งความจริงใจถึงเหล่ามายว่าเป็นเหมือนเสียงที่มอบความเข้มแข็งให้กันและกันเสมอมา ฝั่งมายเองก็ไม่น้อยหน้าจัดแฟนโปรเจกต์สุดครีเอทด้วยการใส่ที่คาดผมเป็นรูป ‘เอเลี่ยน’ สื่อถึงคอนเซ็ปต์อัลบั้มเต็มชุดแรกทำเอาสี่สาวชมไม่หยุดปากว่าน่ารัก และรูป ‘หมู’ สื่อถึงเกาะหมูของ BAHAMA ตามชื่อเพลง, การชูสโลแกนที่มีความหมายว่า ‘เส้นขนานของ aespa และ MY ได้มาบรรจบกันในวันนี้’ ‘ไม่ว่าที่ไหนที่ aespa มองไป MY จะอยู่ตรงนั้นเสมอ’, การแปรอักษรจากกล่องไฟเป็นคำว่า ‘MYs ❤ 에스파 (aespa) ✨✨✨✨’ ‘나는 🍀 럭키 (ฉันโชคดี) 💙🌙⭐️🦋’ และการติดป้ายไวนิลประโยคซึ้งๆ ว่า ‘หลังจากนี้มาเดินบนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบด้วยกันตลอดไปเลยนะ’ ‘aespa ส่องสว่างยิ่งกว่าดวงดาวในค่ำคืนนี้’

เป็น 2 ชั่วโมง 30 นาที กับ 24 บทเพลงที่ทั้งสวย สนุก หวาน ซึ้ง เท่ ในบรรยากาศสุดอบอุ่นที่ aespa กับมายที่เป็นทั้งแฟนคลับและเพื่อนที่ล้ำค่าที่สุดของ aespa ร่วมสร้างไปด้วยกัน