มาร์ค วง NCT ประสบความสำเร็จกับการเดบิวต์ในฐานะศิลปินเดี่ยวด้วยอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก The Firstfruit ซึ่งหลังจากปล่อยเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา แฟนเพลงทั่วโลกก็ให้ความสนใจและความรักกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการครองอันดับ 1 บนชาร์ต iTunes Top Albums กว่า 17 ภูมิภาคทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ตลอดจนการติดอันดับ 1 บนชาร์ตอัลบั้มและชาร์ตเพลงออนไลน์ในประเทศเกาหลีใต้, อันดับ 1 บนชาร์ต Digital Album Sales ของ QQ Music ประเทศจีน, อันดับ 1 บนชาร์ต Real-time rising ของ AWA ประเทศญี่ปุ่น ฯลฯ
อัลบั้มเดี่ยวชุดแรก The Firstfruit ได้รับแรงบันดาลใจจาก 4 เมืองที่เป็นรากฐานสำคัญในชีวิตของมาร์ค ได้แก่ โตรอนโต บ้านเกิด, นิวยอร์ก เมืองแรกที่ย้ายไปอยู่, แวนคูเวอร์ เมืองที่ใช้ชีวิตในช่วงวัยเรียน และกรุงโซล เมืองที่ได้สานฝันในฐานะศิลปิน โดยอัลบั้มนี้ประกอบด้วยทั้งหมด 13 เพลง ซึ่งมาร์คมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ทุกเพลง โดยแบ่งออกเป็น 4 ส่วนตามอารมณ์และบรรยากาศที่เขารู้สึกในแต่ละเมือง อีกทั้งความสมบูรณ์แบบของอัลบั้มนี้ยังสูงขึ้นด้วยการมีส่วนร่วมของหลายท่าน อาทิ คุณแม่ของมาร์ค, แฮชาน วง NCT, CODE KUNST, Crush, อียองจี เรียกได้ว่า ผลงานนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตและการเดินทางทางดนตรีของมาร์คตั้งแต่ปีที่เขาเกิดในปี 1999, การเป็นสมาชิกของ NCT ไปจนถึงปัจจุบันที่ได้เดบิวต์ในฐานะศิลปินเดี่ยว นับเป็นผลอันล้ำค่าที่ในที่สุดก็ออกผล เหมือนกับชื่อ The Firstfruit อัลบั้มที่มาจากความพยายามและความท้าทายอย่างต่อเนื่องของเขา
ส่วนแรกของอัลบั้มอย่าง โตรอนโต เกี่ยวกับบรรยากาศที่อบอุ่นและร่าเริงในบ้านเกิดของมาร์คและปี 1999 ปีที่เขาเกิด ซึ่งเพลง Toronto’s Window ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางนั้น บอกเล่าถึงการมองย้อนกลับไปยังชีวิตที่ผ่านมาของมาร์คและคุณค่าของอัลบั้มนี้ที่มีต่อเขา สำหรับเพลงไตเติ้ล 1999 เป็นเพลงแนวป๊อปที่ผสมผสานการเรียบเรียงดนตรีของวงออเคสตราสุดอลังการเข้ากับเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ เช่น เสียงกีต้าร์ฟังก์ เครื่องเป่าทองเหลือง และเสียงผิวปาก ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่ร่าเริงสดใส โดยผู้ฟังสามารถสัมผัสได้ถึงเสน่ห์อันแปลกใหม่ที่มาร์คไม่เคยแสดงให้เห็นมาก่อน ผ่านการร้องเพลงอย่างอิสระที่สลับไปมาระหว่างการแรปแบบกระชับกับเสียงสูง เนื้อเพลงสื่อถึงความหมายของความสุข ณ ช่วงเวลานี้ที่ออกผลแรกเป็นอัลบั้มเดี่ยว ราวกับว่ากำลังย้อนเวลากลับไปในปี 1999 ซึ่งเป็นปีเกิดของมาร์คและยังสื่อถึงความมุ่งมั่นที่จะกลายเป็นศิลปินแห่งปลายศตวรรษ เหมือนที่เขาเกิดในปีสุดท้ายของศตวรรษ โดยเขาได้แต่งเนื้อร้องและทำนองด้วยตัวเองเพื่อถ่ายทอดความคิดที่ตรงไปตรงมา
ส่วนที่สองของอัลบั้มอย่าง นิวยอร์ก แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกหนักหน่วงและไม่มั่นคงของการย้ายที่อยู่ครั้งแรกผ่านฮิปฮอป โดยจะมีเพลงสั้น Flight to NYC เกี่ยวกับความรู้สึกบนเครื่องบินที่ออกจากบ้านเกิดโตรอนโตไปยังนิวยอร์ก, เพลงฮิปฮอปทรงพลัง Righteous สื่อถึงตัวตนในฐานะศิลปินที่เดินทางไปทั่วโลก และเพลง 프락치 (Fraktsiya) (Feat. LEE YOUNG JI) ที่เปรียบเทียบถึงการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของเขาในวงการเคป๊อปและฮิปฮอป
ส่วนที่สามของอัลบั้มอย่าง แวนคูเวอร์ นำเสนอดนตรีที่ฟังง่ายโดยอิงจากความทรงจำอันอบอุ่นของเมืองที่รักดั่งบ้านเกิด ทั้งเพลงป๊อป Raincouver ที่ให้ความรู้สึกคิดถึงตัวตนอันไร้เดียงสาในอดีตขณะมองหยดน้ำฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้า, เพลงที่มีบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ Loser ถ่ายทอดความรู้สึกอันละเอียดอ่อนและอารมณ์ที่จริงใจผ่านเนื้อเพลงที่สะท้อนความทรงจำและบาดแผลของความรัก และเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง R&B ในยุค 90 อย่าง Watching TV (Feat. Crush) เนื้อเพลงจะเล่าเรื่องราวราวกับมาร์คกลายเป็นนักเขียนบทที่กำลังเขียนบทภาพยนตร์อยู่
ส่วนที่สี่ของอัลบั้มอย่าง โซล ถ่ายทอดอย่างสดใสเกี่ยวกับปัจจุบัน ที่ความฝันในการเป็นป๊อปสตาร์กำลังกลายเป็นความจริง โดยจะมีเพลง +82 Pressin’ (Feat. HAECHAN) พูดถึงความมั่นใจของมาร์คและแฮชานที่ทำกิจกรรมโปรโมตในโซลเป็นหลัก, เพลง 200 สื่อถึงความหมายของความรักที่คนสองคนทำให้กันและกันเปล่งประกายมากขึ้น, เพลง Journey Mercies มองย้อนวันวานยามสิ้นสุดการเดินทางอันยาวนาน, Mom’s Interlude เพลงที่คุณแม่ของมาร์คบรรเลงเปียโนด้วยตัวเองนั้นจะมีบทสนทนาสุดอบอุ่นระหว่างคุณแม่และลูกชายอย่างมาร์ค ปิดท้ายอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกด้วยเพลง Too Much ที่มีข้อความว่า ความรักที่ได้รับคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คอยหล่อเลี้ยงเราอยู่เสมอ
รับฟังอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก The Firstfruit ของ MARK ➫ https://MARK.lnk.to/the_firstfruit
รับชมมิวสิกวิดีโอเพลงไตเติ้ล 1999 ของ MARK ➫ https://youtu.be/c6PeWqj-moU
รับชมวิดีโอการแสดงเพลงไตเติ้ล 1999 ของ MARK ➫ https://youtu.be/UfoF29OCQts