2025 TEN CONCERT 1001 MOVEMENT ‘STUNNER’ IN BANGKOK สตั๊นท์แบบเต็ม 10 ไปเลย!

เตนล์ (TEN) วง NCT แสดงศักยภาพเต็มสิบในฐานะศิลปินเดี่ยว ผสานเรื่องราวและการแสดงสุดตื่นตะลึงในคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรก 2025 TEN CONCERT 1001 MOVEMENT ‘STUNNER’ IN BANGKOK สะกดสายตาผู้ชมตลอดทั้งสองรอบการแสดงในวันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2025 เวลา 18:00 น. และวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2025 เวลา 16:00 น. ณ อิมแพ็ค อารีน่า

โดยเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2025 ผู้จัดและต้นสังกัดในประเทศไทยอย่าง SM True ได้จัดงานแถลงข่าวให้เตนล์ได้มานั่งพูดคุยถึงคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกในบ้านเกิด ที่เตนล์เล่าว่าคอนนี้มากับคอนเส็ปต์ Siren (ไซเรน) สิ่งมีชีวิตที่มีความลึกลับ โดยตัวเขาเองก็ได้มีส่วนร่วมกับคอนเสิร์ตครั้งนี้ทั้งในเรื่องการแสดงบนเวที อยากจัดเวทีแบบไหน มีสเปเชียลเอฟเฟกต์ยังไง ไปจนถึงเซ็ตลิสต์ที่ดีไซน์จังหวะของคอนเสิร์ตกันอย่างจริงจัง และแม้จะมีเวลาเตรียมตัวสำหรับคอนนี้เพียง 1 อาทิตย์เพราะเพิ่งปล่อยมินิอัลบั้มชุดที่ 2 STUNNER ออกมาในช่วงที่ซ้อนทับกันพอดี แต่ความมุ่งมั่นและเตรียมตัวนั้น เตนล์ให้คะแนนตัวเอง 10 เต็มเลยทีเดียว ก่อนจะเปลี่ยนใจเหลือแค่ 9 เพราะ “วันคอนเสิร์ต แฟนๆ ต้องมาเติมให้เต็ม 10 ครับ” เอ๊อออออ ได้! 

เปลี่ยนมาคุยเรื่องมินิอัลบั้ม STUNNER กันบ้าง เตนล์บอกว่าแนะนำให้ฟังทุกเพลงเลย เพราะค่ายให้อิสระในการเลือกเพลงเต็มที่ ชนิดที่เจ้าตัวมีส่วนร่วม 100% ในการเลือก ผลคือเป็นอัลบั้มที่เตนล์ “รักทุกเพลงเลย เป็น TEN’s Pick หรือสิ่งที่เตนล์เลือกครับ” และเมื่อต้องเลือกเพลงจากมินิอัลบั้มนี้เพื่อมอบให้กับแฟน ๆ ชาวไทย เตนล์เลือกเพลง Enough for Me “เพราะเป็นเพลงป๊อปแด๊นซ์ที่ฟังแล้วจะรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น และน่าจะเหมาะกับอากาศที่ประเทศไทยที่เพิ่งผ่านสงกรานต์มา ฟังแล้วจะรู้สึกอยากไปทะเล” เตนล์ยังบอกว่าเพลง Waves เป็นเพลงที่ทำให้คิดถึงประเทศไทย “ครั้งแรกที่ได้ฟังเพลง Waves จะมีเสียงเหมือนทะเล เสียงนก หาดทราย ผมนึกถึงทะเลเมืองไทยมากเลยครับ เวลาที่รู้สึกว่าคิดอะไรไม่ออก รู้สึกสับสนหรือว้าวุ่น ฟังเพลง Waves ไปจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้นครับ”

คุยกันพอหอมปากหอมคอ ก็มาถึงช่วงท้ายของงานแล้ว หลังเรียนเชิญคุณเทพ สินธวานนท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการ บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด และสปอนเซอร์ คุณกมลพรรณ คงสุวรรณ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส Maybelline New York (เมย์เบลลีน นิวยอร์ก) ร่วมถ่ายภาพที่ระลึกกับเตนล์ ก็เป็นอันแยกย้ายเตรียมตัวไปเจอกันในคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเตนล์ในวันถัดไป

1001 MOVEMENT นั้นเปรียบเสมือนแบรนด์ทัวร์เฉพาะตัวที่สะท้อนตัวตนพร้อมสื่อถึงเตนล์กับแฟนคลับอย่างเอ็นซีทีเซ็นและเวย์เจินนี ด้วยการถ่ายทอดความหมายผ่านนิยามที่ว่า ‘ทุกการเคลื่อนไหว อธิบายและเติมเต็มตัวตนของฉัน’ คอนเสิร์ตนี้นี้จึงนำเสนออัตลักษณ์ทางศิลปะของเตนล์ผ่านการแสดงที่หลากหลาย ผสานด้วยโปรดักชันแบบ 3 มิติ อาทิ โครงสร้างเวที LED ทั้งแบบยกและเลื่อน, ลิฟต์ที่ยื่นออกมาเป็นขั้นบันได, สายพานลำเลียง รวมถึงสเปเชียลเอฟเฟกต์แสง สี เสียง และเลเซอร์สุดล้ำ ที่ช่วยเสริมมิติทางอารมณ์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

การเคลื่อนไหวอันน่าหลงใหลและเป็นเอกลักษณ์ของเตนล์ถูกถ่ายทอดผ่านองค์ประกอบต่างๆ ตั้งแต่วีซีอาร์ที่นำเสนอตัวเขาในคอนเส็ปต์การถือกำเนิดใหม่เป็น ‘ไซเรน’ (Siren) สิ่งมีชีวิตลึกลับผู้เปี่ยมเสน่ห์ในตำนานเทพปกรณัมกรีก-โรมัน ไปจนถึงมู้ดแอนด์โทนและเอเนอร์จี้ที่จัดมาแบบแน่นๆ ทั้งความร้อนแรงในเพลงทรงพลังอย่าง Nightwalker ความหนักแน่นใน ON TEN การเผยมาดวายร้ายสุดอันตรายใน Dangerous, การเล่นกับแสงและเงาสะท้อนเพิ่มความเซ็กซี่ใน Shadow, การปรากฏตัวกลางอ่างน้ำบนเวทีพร้อมลีลาอันพลิ้วไหวในเพลง Water และเทคนิคการเต้นอันน่าทึ่งในเพลง Birthday ที่ต้องปรบมือให้อีกอย่างคือเตนล์ได้สร้างสรรค์ความแปลกใหม่ให้แต่ละโชว์ด้วยการปรับเปลี่ยนกิมมิคต่างๆ ทั้งรูปแบบการแสดง, ดนตรี, ท่าเต้น และการจัดวางตำแหน่ง ที่แสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันและศักยภาพในฐานะ Artistic Performer หรือศิลปินที่ผสานศิลปะเข้ากับการแสดงได้อย่างลงตัว

คอนนี้เตนล์ยังนำเพลงจากมินิอัลบั้มชุดที่ 2 มาแสดงเป็นครั้งแรก ทั้งเพลงเปิดตัวอย่าง STUNNER และเพลงแด๊นซ์จังหวะสนุกๆ ชวนเต้น BAMBOLA รวมถึงเพลงอื่นๆ อย่าง Sweet As Sin ที่มีการสวมผ้าปิดตาเพิ่มฟีลดาร์กให้เข้มข้น การใช้บันไดประกอบการแสดงเพลง Enough For Me ไปจนถึงความละมุนของเพลงบัลลาดอย่าง Butterfly ที่มาพร้อมเอฟเฟกต์ฝูงผีเสื้อโบยบินบนผ้าม่านโปร่งแสงยาว 16 เมตรที่ทิ้งตัวลงมาโอบล้อมเตนล์ และ Waves ที่อบอวลไปด้วยความร่าเริง

มาดูคอนเดี่ยวแบบนี้ต้องบอกว่าซึ้งเลยถึงความเก่งของเตนล์ เต้นสวย เต้นทรงพลัง เต้นพลิ้ว เต้นไม่หยุด เต้นจนเหนื่อยแทน แต่เตนล์เหมือนไม่เหนื่อย >< แล้วถึงแม้ทุกเพลงจะชวนให้อ้าปากหวอและเรียกเสียงกรี๊ดได้สนั่นอยู่แล้ว แต่เสียงยังสนั่นเพิ่มได้อีกในช่วงไฮไลต์ นั่นคือเมดเลย์เพลงฮิตของ NCT ที่จัดมายาวๆ ตั้งแต่ Baby Don’t Stop, Steady, Smoothie, 영웅 (英雄; Kick It), Baggy Jeans รวมทั้ง Call Me ของ WayV ที่เตนล์เปลี่ยนสไตล์การแร็ปใหม่ให้เข้ากับตัวเอง อ่อ กับอีกช่วงที่เพราะและขลังมากคือการคัฟเวอร์เพลงโปรด Die With A Smile ของ Lady Gaga กับ Bruno Mars ที่เตนล์หยุดเต้นแล้วจับไมค์ยืนร้องเพลงโชว์เสียงร้องพร้อมเนื้อหาที่ตัวเขาอยากบอกกับแฟนคลับที่รักและสนับสนุนมาตลอด

ศิลปินจัดเต็มขนาดนี้ แฟนๆ ก็ย่อมจะตอบกลับแบบจัดเต็มไม่แพ้กัน สองวันในคอนครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยแฟนโปรเจ็กต์มากมาย ทั้งการแปรกล่องไฟ TEN ERA (ยุคของเตนล์), ONLY TEN (มีเพียงเตนล์คนเดียว) รวมถึงแบนเนอร์และป้ายข้อความ ‘Millions of stars here will always shine for TEN.’ (ดาวหลายล้านดวงตรงนี้จะส่องสว่างเพื่อเตนล์เสมอ), ‘We always shine for each other.’ (เป็นดาวส่องสว่างซึ่งกันและกัน), ‘Through seasons change, our hearts remain. A love that blooms against the rain.’ (ฤดูกาลเปลี่ยนไปแต่หัวใจยังคงมั่น ความรักเบ่งบานท่ามกลางสายฝน), ‘Every bloom says ‘I love you’ just for you. (เปรียบเสมือนดอกไม้เบ่งบานเพื่อเตนล์) เยอะมากจริงๆ คุ้ณณณณณ

เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมงในคอนเสิร์ตนี้ ตอกย้ำสถานะ Artistic Performer ยืนหนึ่งของเตนล์ ที่ไม่แค่เปล่งประกายในทุกการเคลื่อนไหว ทอล์กโชว์ก็สนุกไม่แผ่ว ภาษาไทยสไตล์เตนล์ก็คืองงไม่หยุด ขำไม่หยุด งงไปขำไปทั้งคนพูดและคนฟัง แล้วเตนล์ก็ขยันพูดซะด้วย เจ้าตัวยังแซวตัวเองว่านี่ไม่ใช่คอนเสิร์ตแล้ว นี่คือทอล์กโชว์ 😂 ซึ่งยิ่งสร้างบรรยากาศสนุกสนานและสีสันเพิ่มไปอีก สมกับที่เตนล์บอกไว้ว่าอยากให้ทุกคนมาสนุกด้วยกัน ให้เหมือนมาปาร์ตี้ อยากร้องก็ร้อง อยากเต้นก็เต้น อยากทำอะไรทำ ฟรีดอมไปเลย ความรับส่งกันแบบชิลล์ๆ ของคนบนเวทีกับข้างนี้ยังทำให้เห็นว่าเมื่อคู่ตัวเลขอย่าง 10 และ 01 มารวมกัน จะก่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ที่พร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และเตนล์กับแฟนคลับก็ได้กลายมาเป็น STUNNER ที่ต่างคนต่างมอบความตะลึง มอบความทรงจำอันงดงามให้แก่กันได้สมบูรณ์แบบเต็มสิบไปเลย