ต้องยอมรับว่า เตนล์ เป็นศิลปินคนหนึ่งที่แฟนๆ รอคอยอัลบั้มเดี่ยวและการมาเปิดคอนเสิร์ตของเขามากที่สุด เพราะเตนล์เป็นศิลปินที่มากความสามารถสมฉายา ‘ตัวเลขที่สมบูรณ์แบบ’ และเมื่อ SM True ประกาศงาน 2024 TEN First Fan-Con [1001] in Bangkok เหล่า WayZenNi (เวย์เจินนี) และ NCTzen (เอ็นซีทีเซ็น) ก็ดีใจกันสุดๆ และได้ร่วมกันสร้างสถิติใหม่ให้เตนล์เป็นศิลปินชายเดี่ยวคนแรกของ SM Entertainment ที่จัดแฟนคอนเดี่ยว ณ อิมแพค อารีน่าได้สำเร็จ 2 รอบ ไปเมื่อวันที่ 2 และ 3 มีนาคม แถมบัตรหมดเกลี้ยงอีกต่างหาก เอ๊า ปรบมือสิคะ
ก่อนจะถึงเวลาแสดงแฟนคอนเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทย ผู้จัด SM True และเตนล์ก็เปิดห้องแถลงข่าวพบปะสื่อมวลชนและแฟนๆ กันก่อนเป็นการเรียกน้ำย่อย นี่ถือเป็นการกลับมาเปิดการแสดงที่บ้านเกิดในฐานะศิลปินเดี่ยวสุดฮอตและคนไทยหนึ่งเดียวจากบริษัทบันเทิงชั้นนำของเกาหลีอย่าง SM Entertainment เลยนะ
ก่อนอื่นเตนล์ก็ขอบคุณแฟนๆ ที่รักและสนับสนุนเขามาตลอด และวันนี้ก็ให้โอกาสเขาได้ตอบแทนความรักนั้นด้วยงานแฟนคอนครั้งนี้ พร้อมทั้งเล่าว่าชื่องาน 1001 นั้นก็หมายถึง 10 TEN ตัวเตนล์เอง และ 01 คือ แฟนๆ ที่มาเป็นอันดับ 1 จึงรวมเป็นคำนี้ และสปอยล์ว่าแฟนคอนครั้งนี้จะมีลูกเล่นและพร็อพแตกต่างจากที่เกาหลีเล็กน้อย ก่อนจะอ้อนให้แฟนๆ ช่วยกันร้องเพลงด้วยนะครับ ซึ่งแฟนๆ ก็เตรียมตัวมาอย่างดี เพราะได้เทสต์ร้องให้ดีเจนุ้ยพิธีกรฟังก่อนเริ่มงานด้วย การันตีว่าซ้อมมาเป็นอย่างดีจริงๆ
แล้วเตนล์ก็เล่าให้ฟังถึงอัลบั้มเดี่ยวของเขาว่า ที่ใช้ชื่อ TEN เพราะว่าอัลบั้มนี้เป็นตัวแทนของเขาในแต่ละคาแรกเตอร์ในแต่ละเพลง เพราะเตนล์นั้นอยากทดลองหลายๆ แนว อยากพิสูจน์ตัวเอง อยากพัฒนาการเต้นและการร้อง เพราะตัวเตนล์ยังมีอะไรที่แอบเก็บไว้อีกเยอะ มีสิ่งที่อยากโชว์ให้แฟนๆ ได้เห็นอีกมาก “ต้องติดตามกันเรื่อยๆ นะครับ” เตนล์บอกว่าเขาเคยเป็นคนขี้อายแต่ตอนนี้ไม่คิดเยอะแล้ว จะทำทุกอย่างให้เต็มที่ ให้สนุก ทำให้เต็มสิบทุกอย่างเลย ก่อนจะทิ้งท้าย 10 พยางค์ว่า “วันนี้เจอแฟนไทยเรามาเต็มที่กัน” และบอกว่าเขาจะรอฟังพลังเสียงของแฟนๆ ในงานนี้ด้วย
ก่อนจบการแถลงข่าวพิธีกรได้เชิญคุณ JUNGMIN CHOI (จองมิน ชเว) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CEO บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด และ Chief Global Officer ของ SM Entertainment, คุณเทพ สินธวานนท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายปฏิบัติการ บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด และ สปอนเซอร์ คุณณริดา เวชยานนท์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส Maybelline New York และ คุณบุณยวีร์ บุญสงเคราะห์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์ธุรกิจและปฏิบัติการ Moshi Moshi ร่วมถ่ายภาพกับเตนล์ด้วย
และแล้วก็ถึงงานแฟนคอนที่รอคอย เตนล์เปิดเวทีด้วยเพลงป๊อปร็อกน่ารักๆ อย่าง Paint Me Naked เป็นเพลงเปิดตัวที่ร่าเริงมาก ก่อนจะแนะนำตัวแบบเต็มยศว่า “สวัสดีครับ เตนล์ ชิตพล ลี้ชัยพรกุลครับ” และพูดคุยกัน ในช่วง Magazine: 10 for1 ซึ่งเราจะมาเปิดนิตยสารที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเตนล์ไปทีละคอลัมน์ เพื่อที่เราจะได้รู้จักตัวตนของเตนล์ให้มากขึ้น คอลัมน์แรกคือ Heart Attack หนึ่งคำพูดที่แฟนๆ เคยบอกแล้วเตนล์จำได้คือ “เตนล์ทำทุกอย่างได้เต็มที่เลย เป็นตัวเองให้เต็มที่ ที่เหลือแฟนๆ จะซัพพอร์ตเอง” และเล่าถึงเกมโปเกมอนที่ชอบเล่นแก่อนจะ Cover ตัวเองเป็นตัวละครในการ์ตูนได้น่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน เล่าถึงแมวสุดที่รัก ทั้ง 3 ตัว และเล่าถึงการร่วมเป็น 1 ในเมนเทอร์ของรายการ CHUANG ASIA ว่าเขารู้สึกว่าเด็กไทยเก่งมาก และตัวเขาเองเป็นครูที่ค่อนข้างจะเคี่ยว เขาอยากให้ทุกคนพยายาม เพราะการจะเป็นไอดอลนั้นความพยายามสำคัญที่สุด เหมือนที่ตัวเตนล์นั้นทำมาตลอด
มาถึงช่วงเล่นเกม 10 Points ซึ่งเตนล์จะต้องเลือกเล่น 3 จาก 6 เกม ที่เตนล์เลือกก็เป็นการตามล่ารูปในอดีตและให้เตนล์ทำท่าเหมือนรูปในวันนั้นอีกครั้ง ทำ Mission ต่อเนื่อง 60 วินาที ที่เตนล์ทำได้แบบชิลๆ และเต้น K-Pop Challenge 3 เพลง (NCT DOJAEJUNG-Perfume, Tyla-Water, TWS-Plot Twist) ซึ่งไม่มีอะไรยากสำหรับคนที่มากความสามารถอย่างเตนล์เลยสักนิด ได้เต็ม 10 ไปเลย แฟนๆ เลยชมว่า “สมบูรณ์แบบเต็ม 10”
ช่วงที่ 2 ร้อนแรงขึ้นด้วยเพลง On Ten และ Shadow ทำให้บรรยากาศ แสงสี และอารณ์บนเวทีเปลี่ยนไปเลย เพราะเตนล์ได้รับการขนานนามว่า ‘ผู้แสดงที่มีศิลปะ’ สามารถแสดงสีหน้า แสดงอารมณ์ และเต้นอย่างมีจิตวิญญาณได้ทุกคอนเซ็ปต์ที่หลากหลายแบบไม่มีที่ติ ต่อด้วยเพลง Dangerous, Water, Dream in a Dream, Birthday และ Nightwalker ก่อนจะปรับอารมณ์มาเป็นเพลง Love Talk แบบ Jazz Version ที่เพราะมากๆ แถมแฟนๆ ยังช่วยกันร้องแบบกระหึ่มฮอลล์อีกต่างหาก
งานแฟนคอนครั้งนี้เราได้เห็นเตนล์ในหลายมุมผ่านการพูดคุย การแสดง การร้อง การเต้น โดยเฉพาะในมุมของความตลก ที่ก็ไม่คิดว่าเตนล์จะเป็นคนตลกขนาดนี้ รวมถึงความสามารถในการครีเอทภาษาและการบัญญัติศัพท์ใหม่ๆ จนพิธีกรยกให้เตนล์เป็น ‘ลูกหลานพ่อขุนรามคำแหง’ เพราะเตนล์บอกเองว่าในปี 2024 นี้ เขาจะเปิดตัวเองมากขึ้น จะกล้าขึ้น และจะแสดงออกให้มากขึ้น ยอมรับเลยว่าเตนล์นั้นแพรวพราวขึ้นเยอะ เล่นมุกเก่งขึ้น เอาเวทีอยู่ด้วยตัวคนเดียว ทำให้เราและแฟนๆ ละสายตาจากเวทีไม่ได้เลยแม้แต่นาทีเดียว
ช่วงสุดท้ายเตนล์มีเพลงพิเศษมาฝากคือ Some Other Day ของวง Singular Ft. DEPAPEPE เป็นเพลงซึ้งๆ ที่ทำเอาน้ำตาเกือบท่วมฮอลล์ เพราะทั้งเตนล์และแฟนๆ ร้องไปด้วยกัน ทั้งร้องเพลงและร้องไห้ ที่เพลงนี้พิเศษเพราะว่า เป็นเพลงไทยเพลงแรกที่เตนล์ร้องในงานฉลองวันเกิดที่ไทยครั้งแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เตนล์บอกความในใจว่า เขาดีใจที่มีทุกคนเป็นแฟนคลับและขอบคุณที่ซัพพอร์ตกันมาตลอด ทำให้เขานั้นมีแรงที่จะไปต่อ
แถมแฟนๆ ก็มีโปรเจ็กต์น่ารักๆ มาเป็นกำลังใจและส่งความรักให้เตนล์ด้วยทั้งป้ายไฟที่เขียนว่า 1♥+♥1 และ TEN LEE ซึ่งเตนล์ชอบมาก ชมว่าแฟนๆ ของเขานั้นสุดยอดมาก และเตนล์ก็ได้ขอบคุณบริษัท ขอบคุณทีมงานเบื้องหลังทุกคนที่ร่วมกันสร้างสรรค์โชว์ที่สุดประทับใจนี้และเหนื่อยไปพร้อมกับเขา ถ่ายรูปร่วมกับแฟนๆ และส่งท้ายด้วยเพลง Lie With You จบโชว์แบบประทับใจที่สุด ทั้งการร้อง การเต้น การพูดคุย เวที แสงสีเสียง และโปรดักชั่นสุดอลังการที่ไปได้ดีกับโชว์ ทำให้ทุกคนภูมิใจในตัวเตนล์ และภูมิใจที่ได้เป็นแฟนคลับของเขา งานนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เตนล์นั้นทำได้ดีไม่ว่าจะในฐานะใด ทั้งสมาชิกของ NCT และ WayV หรือศิลปินเดี่ยวในวันนี้
สุดท้ายท้ายสุด เตนล์สัญญาว่า เขาจะพยายามให้มากขึ้น และถ้าเรายังส่งความรักให้กันแบบนี้ ในอนาคตเขาอาจจะกลับมาในรูปแบบคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบเลยก็ได้นะ เอาล่ะ เราตื่นเต้นรอแล้ว วันนี้แม้จะถึงเวลากลับบ้านแล้ว แต่ในอนาคตเราจะมาเจอกันอีกแน่นอน