ปีนี้เอลฟ์ไทยก็จะหน้าบานหน่อยๆ เพราะได้เจอเมมเบอร์ SUPER JUNIOR แบบยูนิตย่อยบ่อยอยู่ แต่คอน 2024 SUPER JUNIOR <SUPER SHOW SPIN-OFF : Halftime> in BANGKOK นี้ ยังไงก็พิเศษ เพราะคือการกลับมาแบบครบวงพร้อมหน้าทั้ง อีทึก เยซอง ชินดง อึนฮยอก ทงเฮ ซีวอน รยออุค และ คยูฮยอน เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 2 ปีที่เมืองไทยกันเลยทีเดียว ฉะนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมื่อวันที่ 6-7 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี เลยเต็มไปด้วยทะเลสีน้ำเงินแซฟไฟร์สว่างไสวไปหมด สมความเป็นบ้านหลังที่ 2 ของพี่ๆ เขา เพราะเปิดทัวร์ปุ๊บ SJ ก็เลือกจิ้มวันมาประเทศไทยเป็นที่แรกในเอเชียทันที
ถึงจะได้ชื่อว่า Halftime แต่คอนนี้ก็จัดเต็มไม่แพ้ Super Show อื่นๆ เอาแค่เปิดเวทีก็เรียกเสียงกรี๊ดชวนสนุกกันเลยกับขบวนเพลงอย่าง Show Time, Wonder Boy, Dancing Out, Don’t Wait และ Runaway ที่ชวนเอลฟ์ลุกจากเก้าอี้มาแด๊นซ์ไปด้วยกัน ซึ่งเอลฟ์ไทยก็พลังล้นจนอีทึกยกนิ้วชมเป็นภาษาไทยว่า “เก่งจังเลย” ก่อนจะเข้าสู่ช่วงพักเบรกพูดคุย ที่แต่ละลุง เอ๊ย หนุ่มก็จัดภาษาไทยมาขายขำกันแบบไม่มีใครยอมใคร ตั้งแต่พี่ชิ้น-ชินดงที่แนะนำตัวว่า “ผมชื่อกะเพราหมูสับ” เพราะเป็นเมนูโปรดล่าสุดที่เพิ่งค้นพบและกินทุกวันกินไม่หยุดกินตั้งแต่มื้อเช้ายันมื้อมืด แล้วเรื่องกินนี่ยอมกันที่ไหน ทงเฮก็เอาบ้าง ขอเสียง “แตงโมปั่นนนนนน” ที่อีทึกโวยวายว่า “นั่นมันของผม” อึนฮยอกมากับภาษาไทย “พี่ไม่ได้อยากให้หลงกล พี่อยากให้หลงรัก” แต่รอบที่เราได้ดูคือรอบแรกวันเสาร์ ฟังยังไงก็ไม่รู้เรื่อง พยายามอยู่หลายรอบจนฮยอกเลิกพยายามแล้วบอกเดี๋ยวกลับมาจัดใหม่ 555555 ส่วนคยูฮยอนก็ยังคงเป็นพรีเซนเตอร์ดีเด่นตลอดไป “ผมชื่อมาชิตะ มาชิตะแปลว่าอร่อย” โอ้ยยยย มาชิตะกลับมาใช้นางเป็นพรีเซนเตอร์อีกเถอะไหม เอ็นดู
คุยกันจนขำเมื่อยกรามก็ได้เวลากลับเข้าสู่ช่วงเพอร์ฟอร์ม ที่ความดีงามของคอนเสิร์ต Halftime มันอยู่ตรงนี้แหละจ้ะ คืออะไรที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น กับเหล่าบรรดาสเปเชียลสเตจต่างๆ ที่จัดมาเฉพาะคอนนี้เท่านั้น ตั้งแต่ยูนิต L.E.D (Leeteuk , Eunhyuk , Donghae) ออกมาโชว์สเต็ปแด๊นซ์ในเพลง Suit Up ก่อนจะเปลี่ยนโหมดมาหูเคลือบทองกับทีมโวคอล S.K.Y (Shindong ,Yesung ,Kyuhyun) ในเพลง Let’s Not… แล้วปิดท้ายยูนิตพิเศษด้วย R&S (Ryeowook , Siwon) ในเพลงเดือดๆ อย่าง Danger ที่ทั้งเท่ทั้งคูล อันนี้ทึ่งจริงบอกเลย เพราะเราก็ไม่นึกว่าพี่ชิ้นจะไปอยู่ทีมโวคอลและไม่คิดว่ารยออุคจะมาโชว์การแด๊นซ์ เรียกว่าถ้าไม่ใช่คอนเสิร์ตพิเศษแบบนี้ก็คงไม่มีทางได้เห็นอะไรอย่างนี้
และอีกช่วงที่เป็นอะไรที่ไม่เคยเห็นเช่นกัน นั่นคือการเอาเพลงโซโล่ของเมมเบอร์และยูนิตย่อยมาร้อง เหยยยยย ขอบอกว่ามันเลิศมาก ดีมาก เพราะมาก เป็นช่วงโชว์เสียงร้องของ SJ ไปเลยยาวๆ กับเพลงสุดเพราะอย่าง It Has To Be You, At Gwanghwamun และ The Little Prince ส่วนตัวชอบ 2 เพลงแรกมากกกกแบบมากกกกก การได้มาฟังเวอร์ชั่นแบบเมมเบอร์ SJ ทุกคนร่วมกันร้องคือเป็นอะไรที่ไม่เคยคิดฝัน แล้วดันออกมาดีด้วย ใครอย่ามาเม้าท์ว่า SUPER JUNIOR เป็นวงตลก เขาเป็นวงไอดอลจริงค่ะเธอ ร้องเพลงเพราะมากนะจะบอกให้ บัลลาดหวานนุ่มพาร์ทนี้จบด้วยเพลงความหมายดีอย่าง The One I Love ที่เอลฟ์ทำโปรเจ็กต์แปลอักษรจากกล่องไฟเป็นคำความหมายซึ้งๆ ว่า ‘슈주 만♡’ (โปรเจ็กต์รอบวันเสาร์)
หวานซึ้งกันไปแล้ว SJ ขอนำเสนอด้านสดใสกรุบกริบบ้างกับอีกหนึ่งสิ่งที่ปกติไม่เคยเห็นกันอย่างการแบ่งกลุ่มเต้นคัฟเวอร์เพลงรุ่นน้องอย่าง Get A Guitar และ Hype Boy เป็นอีกช่วงที่เสียงกรี๊ดดังสนั่น มีแรงเท่าไหร่เอลฟ์ไทยใส่ไปไม่ต้องยั้ง เพราะแต่ละคนน่ารักคิ้วถึสุดจริง แล้วก็พลิกฉับกลับมาหล่อเท่ในลุคสายลับกับเพลง Spy ที่เปิดเวทีด้วยการให้คุณชายซีวอนในชุดสูทสุดแกลมเดินแบบเดี่ยวบนรันเวย์ โอหอวววว หล่อมาก เท่มากกกก เลขสามทำอะไรพ่อขาของเอลฟ์ไม่ได้จริงๆ สมแล้วกับที่พี่เขาดูแลร่างกายแบบเป๊ะเว่อร์ถึงขั้นตื่นเช้าไปวิ่งออกกำลังกายในสวนลุมฯ และ Opera ตามด้วยเพลงน่ารักๆ อย่าง Lovely Day ที่นั่งเพอร์ฟอร์มกันบนแพลตฟอร์มยกสูงที่สเตจหน้าโดยมีแบนเนอร์แฟนโปรเจ็กต์ความหมายซึ้งๆ (ในรอบวันเสาร์) คำว่า ‘슈주와 함게 있으면 언제나 Lovely Day (ทุกๆ วันเป็นวันที่สวยงามเมื่ออยู่กับเอสเจ) และเพลง From U มีป้ายแฟนโปรเจ็กต์ (ในรอบวันอาทิตย์) คำว่า ‘슈주♡ 택한 건 후회한 적 없다’ (เราไม่เคยเสียใจที่เลือก♡ SJ) ก่อนจะลาส่งท้ายคอนเด้วยเพลงโชว์ความเท่อย่าง Devil และ Black Suit
หลังจากเสียงตะโกนเรียก SUPER JUNIOR พร้อมเล่นเวฟบูสต์เอเนอร์จี้ไปให้ถึงหลังเวที ทั้งแปดคนก็กลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งกับเอเนอร์จี้สุดร้อนแรงด้วยเพลงที่แค่ดนตรีขึ้นก็ต้องลุกขึ้นออกสเต็ปอย่าง A Man In Love และตามด้วยเพลงชาติของ SJ อย่าง Sorry Sorry ที่ทั้งเสียงชานท์และเสียงร้องตามดังสนั่นชนิดฮอลล์สะเทือน ก่อนจะอำลากันไปจริงๆ ด้วยเพลง Believe ที่หลังจากช่วงพูดคุยและมีความเซอร์ไพรส์เล็กๆ กับการโชว์เต้นเพลง ยายแล่ม ของอึนฮยอกและเวอร์ชั่น SJ เต้นพร้อมๆ กัน (รอบวันเสาร์) ก็เป็นช่วงซึ้งที่แต่ละคนพูดความในใจว่าด้วยความรักความผูกพันที่ SJ กับเอลฟ์อยู่ด้วยกันมานานเกือบ 20 ปีแล้วเพราะมีความเชื่อใจกันและกัน คุณชายซีวอนถึงกับพูดภาษาอังกฤษบอกว่าได้เรียนรู้เรื่องความรัก ความมั่นคง และความเชื่อใจจากเอลฟ์ที่แสดงให้เห็นมาถึง 20 ปี พี่ชิ้นก็บอกว่าคงไม่ต้องให้พูดซ้ำ แต่ประเทศไทยเป็นต่างประเทศประเทศแรกที่ SJ ได้เดินทางมา ฉะนั้นจึงมีความพิเศษสำหรับพวกเขาเสมอ พร้อมให้สัญญากับเอลฟ์ไทยว่าจะกลับมาหาอีกแน่นอน เพราะที่นี่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองที่มากี่ครั้งก็อบอุ่นเสมอ ส่วนเอลฟ์ไทยก็แน่นอนว่านี่คือคอนเสิร์ตที่เติมเต็มโมเมนต์ที่โหยหามาตลอด 2 ปี ได้ร้องเพลง ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ และได้บอกความในใจกับ SUPER JUNIOR
ครั้งต่อไปผู้ IME Thailand จะพาศิลปินคนไหนมามอบความสุขให้แฟนๆ ชาวไทยอีก รอติดตามได้เลยที่ Facebook @imethailand, IG and Twitter @ime_th.