20 กรกฎาคม 2567 เป็นอีกวันที่ EXO-L ชาวไทยรอคอย เพราะเป็นวันของคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกของ ซูโฮ แห่ง EXO ที่เรารัก เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีตั้งแต่เขาเดบิวต์มาเลย และซูโฮก็เนรมิตพารากอนฮอลล์ให้เป็นบ้านของเขา ที่เปิดต้อนรับแฟนๆ ทุกคนด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น สบายๆ เหมือนไปนั่งเล่นที่บ้านเพื่อน
งานในวันนี้แฟนๆ มากันเยอะมากและกรี๊ดดังมากๆ ก็ด้วยความประทับใจและคิดถึงซูโฮนั่นแหละ เอาละ เขยิบเข้ามาค่ะ เดี๋ยวจะค่อยๆ เล่าให้ฟังว่าคอนเสิร์ตนี้มีอะไรสนุกสนานประทับใจบ้าง คอนเสิร์ตเริ่มต้นจากห้องนอนที่เขาตกแต่งห้องนอนด้วยทุ่งดอกไม้ที่ล่องลอยมาเหมือนในความฝัน แม้สช่วงนี้จะเน้นเป็นเพลงช้าๆ ซึ้งๆ กินใจ แต่ซูโฮก็ทำให้แฟนๆ กรี๊ดด้วยการโชว์กีต้าร์เท่ๆ อย่างเพลง Mayday, Morning Star, Grey Suit และ Self-Portrait ก่อนจะพักพูดคุยทักทายกัน
ซูโฮบอกว่า “คิดถึงทุกคนมากๆ นะคะ คิดถึงผมมั้ย” แฟนๆ ก็กรี๊ดกันสนั่นแทนคำตอบว่าพวกเขาก็คิดถึงซูโฮมากๆ เช่นกัน เขาบอกว่าเขาตั้งใจเตรียมคอนเสิร์ตครั้งนี้มาก เพราะอยากให้ทุกคนสนุกสนานกับคอนเสิร์ต และเห็นถึงเสน่ห์ของแบนด์และเสน่ห์ของเขาด้วย แถมชมเอลี่ว่า “เจ้าหญิงของผม แต่งตัวกันมาอย่างปังเลยนะ” ทำเอาแฟนๆ ที่แต่งตัวกันมาตามธีมสีม่วงนั้นปลื้มไม่หยุด ปิดท้ายด้วยเพลง Zero Gravity เพลงที่บอกเล่าถึงการมารวมตัวกันอย่างมหัศจรรย์อีกครั้งของ EXO และเอลี่
ช่วงที่ 2 เป็นช่วงแห่งความสดใส ร่าเริง เพลงขยับจังหวะขึ้นมาอีกนิดพอให้แฟนๆ ได้โยก ได้โบกเอลี่บงอย่างสนุกสนาน ได้แก่เพลง Cheese ที่ feat. กับ Wendy, 1 to 3, Hurdle ซูโฮบอกว่าเขารู้ว่าแฟนๆ สนุกกันเต็มที่เพราะที่นี่คือกรุงเทพฯ ไง ทำให้เขาดีใจจนพูดอะไรไม่ออกเลย จนอยากจะรีบกลับไปบอกเมมเบอร์ทุกคนว่าที่นี่ดีมากๆ เครซี่สุดๆ พร้อมพูดภาษาไทยว่า “สุดยอด” ที่เหล่าเอลี่พร้อมใจกันชมกลับว่า “เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ”
ช่วงที่ 3 ซูโฮพาทุกคนกลับสู่โหมดประทับใจและซาบซึ้งอีกครั้งกับเพลง Curtain, Starry Hight, Moonlight และโชว์ลีดกีต้าร์เท่ๆ ในเพลง Decanting ให้ชมเป็นขวัญตา แถมในเพลง For You Now เหล่าเอลี่ยังร้องเพลงนี้กันสนั่นฮอลล์ เป็นช่วงที่ประทับใจจริงๆ จนซูโฮบอกว่า เขาเกือบจะร้องไห้ แต่ก็ร้องไม่ได้เพราะต้องร้องเพลงให้จบ
และแล้วก็มาถึงช่วงที่ทุกคนคิดถึง นั่นคือช่วงเมดเลย์เพลงของ EXO เริ่มด้วยเพลงช้าๆ หวานๆ ที่ทุกคนคุ้นเคยและร้องได้อย่าง The First Snow ที่คราวนี้เอลี่ไทยร้องกันแบบยาวๆ ทั้งเพลง จนซูโฮหยุดร้องแล้วฟังไปพร้อมกับน้ำตาคลอไป ก่อนจะปรับอารมณ์มาสนุกกับเพลงฮิตของ EXO 3 เพลงรวดได้แก่ Growl, Overdose และ Monster แล้วก็ถึงเวลาเปลี่ยนลุคจากความเท่มาเป็นน่ารัก โดยการใส่หมวกหูกระต่าย สัญลักษณ์ของตัวเขา และวิ่งลงมาหาแฟนๆ ด้านล่างอย่างใกล้ชิด ในเพลง Alright Alright ทำขนาดนี้แล้วยังจะมาบอกว่า “ผมอยากเท่แบบ Rock Star แต่ทำไมออกไปทางน่ารักมากกว่า” ก็ใส่หมวกกระต่ายสีชมพูพิ้งค์มาขนาดนั้น เอาตรงไหนมาเท่ก่อน 555 น่ารักจะตาย
ซูโฮชมว่าแฟนๆ ร้องเพลงเก่งมาก และยกให้เป็น Number 1 ในการร้องเพลง พร้อมแอบแซวว่า นี่ซ้อมมาแค่เพลงของเขาใช่มั้ย ไม่ได้ซ้อมเพลงของ EXO มาเหรอ แต่เพลงของ EXO ไม่ต้องซ้อมแล้วละ เพราะเพลงนั้นฝังอยู่ใน DNA ของทุกคนอยู่แล้ว ก่อนที่เขาจะแนะนำแบนด์ทีละคน แล้วปิดท้ายคอนเสิร์ตนี้ด้วย 2 เพลงสุดท้ายอย่าง O2 และ Let’s Love ที่เอลี่ทั้งฮอลล์พร้อมใจกันชูป้ายสโลแกนว่า ‘มารักกันเถอะ ตลอดไปเลยนะ’
ความสนุกยังไม่จบ เมื่อซูโฮกลับขึ้นเวทีอีกครั้งในช่วงอังกอร์ กับเพลง Moment แฟนๆ ก็ยังมีโปรเจ็กต์ชูป้ายสโลแกนว่า ‘ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา และนับจากนี้ตลอดไป EXO-L ชาวไทย จะอยู่เคียงข้างซูโฮอยู่เสมอ’ นอกจาก 2 โปรเจ็กต์นี้แล้ว ยังมีเฟรมแท่งไฟรูปดาวสีเหลือง ที่ซูโฮถึงกับแปลกใจว่า “นี่เตรียม Yellow Star มาให้ผมเหรอ สวยเหมือนในนิยายเลย” ยังมีแท่งไฟเรืองแสง มีกล่องไฟบนสแตนด์ที่บอกรักซูโฮว่า ‘ประเทศไทยรักพี่จุน’ (จุนมยอน ชื่อจริงของซูโฮ) ถึงกับทำให่ซูโฮหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายความประทับใจเก็บไว้เลย เป็นคอนเสิร์ตที่มีความพิเศษเยอะจริงๆ ทำเอาเขาถึงกับสงสัยว่า ไปเตรียมกันมาตอนไหน 55 เพื่อซูโฮ เอลี่ไทยทำได้ค่ะ
ช่วงปิดท้ายซูโฮพูดถึงความประทับใจว่า “ผมก็จะอยู่เคียงข้าง EXO-L ชาวไทยตลอดไป ผมรักคุณครับ” โอ๊ย หวานมากๆ พร้อมกับสัญญาที่ทำให้พวกเราใจฟูสุดๆ คือ “ทุกคนคือบ้านของผม ผมจะรีบกลับมาหาอีก และจะมาพร้อมกับสมาชิก EXO ทุกคนครับ” ก่อนจะขอบคุณทีมงานที่ทำให้เกิดคอนเสิร์ตนี้ขึ้น และขอบคุณแฟนๆ ที่มากันเยอะขนาดนี้ “อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ” และบอกว่า “ถึงแม้จะมี EXO-L เพียงแค่ 1 คนโบกบงและเรียกชื่อผม ผมก็ยังคงร้องเพลงเพื่อแฟนๆ เสมอ และขอบคุณสำหรับความรักและการสนับสนุนที่ดีมาตลอดสำหรับผมและ EXO” และปิดท้ายอย่างประทับใจด้วยเพลง Made In You วันนี้เชื่อว่านอกจากเอลี่ไทยจะมีความสุขสุดๆ แล้ว ซูโฮก็คงมีความสุขมากๆ เหมือนกัน ที่ได้ยืนอยู่บนเวทีท่ามกลางแฟนๆ ของเขา