M. Night Shyamalan จับมือทำงานกับลูกสาวใน Trap การหลอมรวมคอนเสิร์ตเข้ากับหนังธริลเลอร์

วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส นำเสนอประสบการณ์ใหม่บนโลกจากผู้กำกับและผู้เขียนบท เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน กับภาพยนตร์เรื่อง Trap ที่นำแสดงโดยนักดนตรีดาวรุ่ง ซาเลก้า ชยามาลาน ลูกสาวของเขาเอง ร่วมด้วย จอช ฮาร์ทเน็ตต์, แอเรียล โดโนฮิว, เฮย์ลีย์ มิลส์ และ แอลลิสัน พิลล์ ว่าด้วยเรื่องราวของคุณพ่อกับลูกสาววัยรุ่นที่ตั้งใจไปสนุกกับคอนเสิร์ตศิลปินป๊อป แต่กลับพบว่าตัวเองตกอยู่ท่ามกลางอีเวนต์ที่เต็มไปด้วยความหดหู่และน่าสยอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังกำกับภาพโดยคนไทย สยมภู มุกดีพร้อม ที่สร้างชื่อจากเรื่อง Call Me by Your Name

ไปฟังเรื่องราวของภาพยนตร์และทีมนักแสดงจากปากคำของเอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน กันเลย

จุดเริ่มต้นของภาพยนตร์

Trap ถูกสร้างขึ้นมาโดยผมและลูกสาว ซาลีกา จากการคุยกันเรื่องดนตรีและภาพยนตร์ โดยทั่วไปเริ่มจากเราคิดว่าจะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเสียงดนตรีที่มีความระทึกขวัญรวมกับที่ ผมเริ่มสงสัยว่า “เราจะสร้างหนังทริลเลอร์เกี่ยวกับเสียงดนตรีได้หรือไม่?” ผมคิดว่าซาลีก้าจะแต่งอัลบั้มหนึ่งขึ้นมา และเราจะสัมผัสเสียงเพลงนั้นเหมือนอยู่ในคอนเสิร์ต จากนั้นได้พบกับเรื่องราวสุดระทึก ทั้ง 2 สิ่งนั้นจะมารวมตัวกันได้หรือไม่? ผมเริ่มสงสัยและเอาเรื่องราวไปนำเสนอซาลีก้า เธอสนใจมันมากเลย เราเริ่มสร้างจากจุดนั้น… และต่อด้วยเรื่องราวของพ่อกับลูกสาวไปดูคอนเสิร์ต เราผสมระหว่างคอนเสิร์ตกับความลึกลับที่จะเกิดขึ้นที่นั่น การพัฒนาเรื่อง Trap มีที่มาแบบนี้

การร่วมงานกับจอช ฮาร์ทเน็ตต์

ผมคิดถึงวิธีการสร้างหนังที่จะเป็นการสร้างความแปลกใหม่ สร้างโทนใหม่ และสร้างความแปลกใหม่ขึ้นมาในทุกครั้ง นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นกับการทำสิ่งแปลกใหม่ ผมเต็มใจรับหนังที่เล็กลง เพื่อที่เราอาจเชื่อมโยงกับผู้คนรอบโลกได้มากขึ้น ผมมองหาคนที่อยู่ในจังหวะที่เหมาะสมของตัวเอง และพร้อมจะรับความเสี่ยง ผมคิดว่าผลลัพธ์ที่ได้คือผู้ชมจะได้พบสิ่งที่หาชมยากและมีความพิเศษ และผมคิดว่าจอช ฮาร์เน็ตต์ตรงกับคำจำกัดความนี้ เขาอาศัยที่อังกฤษร่วมกับครอบครัว เขาเป็นคนช่างคิดและมีเหตุผล ตอนที่เจอเขา เขามองตาผมและผมรู้เลยว่าเขาพร้อมจะทำทุกอย่าง เขามีทั้งพลังและความตื่นเต้นที่แสดงออกมาให้เห็น การรับบทคูเปอร์ในบทพิเศษนี้ ผมต้องการคนที่มีทุกอย่างพร้อมและกล้ารับความเสี่ยง ผมคิดว่าสำหรับผู้ชมแล้ว เหตุผลหนึ่งที่จะดูหนังเรื่องนี้คือการแสดงอันน่าทึ่งที่จอชถ่ายทอดออกมา

คาแรคเตอร์ของคูเปอร์

ผมคิดว่าเราต่างหลงใหลในตัวละครที่มีความซับซ้อนและโหดร้าย ผมเองก็เช่นกัน เราทุกคนต่างมีด้านมืดอยู่ในตัว นั่นคือเรื่องจริง ผมคิดว่านั่นคือเหตุผลที่ทุกคนรักไดโนเสาร์มาก เพราะพวกมันมีตัวตนจริง สัตว์ประหลาดตัวจริงที่มีชีวิตในอดีตนั้นยังมีชีวิตจริงในปัจจุบัน การเขียนบทตัวละครที่มีความโหดร้าย และการรับบทตัวร้ายมีความน่าหลงใหล เพราะมันยังอยู่ในการรับรู้ของมนุษย์ สำหรับผมมันคือเรื่องของการค้นหามนุษยธรรมในตัวละครที่ทำสิ่งชั่วร้าย มันมีความท้าทายและน่าทึ่ง และทำให้เห็นความมีมนุษยธรรมที่ผู้ชมจะสัมผัสได้ ทำให้ผู้ชมเข้าใจว่าทำไมบางคนจึงทำสิ่งที่โหดร้ายมากได้ลง ทำให้เราเกิดความเห็นใจกัน… และเพราะเราเห็นตัวเองในเวอร์ชั่นอื่น นัน่คือสิ่งที่เรียกความสนใจได้มาก และเป็นสิ่งที่มาเติมเต็มความปรารถนา อย่างน้อยก็ในส่วนของผม แม้แต่คนที่มีความโหดร้ายที่สุด จะมีทางใดที่เข้าถึงความรู้สึกเขาได้บ้างไหม?

เลดี้ เรเวน กับการร้องเพลง

แม้ว่าเราจะมีการสร้างให้เลดี้ เรเวนเป็นป๊อปสตาร์ในเรื่องราว แต่มันเริ่มจากการให้ซาลีก้าแต่ง โปรดิวซ์ และบันทึกเสียงอัลบั้ม มันวิเศษมากที่ได้เฝ้าดูศิลปินคนหนึ่งทำสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจได้ ผมนึกถึงเธอในฐานะของศิลปินผู้มีความมั่นใจและไม่มีเรื่องเสื่อมเสีย ผมมองลูกสาวตัวเองและคิดว่าพวกเธอกำลังเรียนรู้งานศิลปะและต่อสู้กับปีศาจของตัวเองอยู่ สิ่งหนึ่งที่พวกเธอไม่ยอมอ่อนข้อให้คือเรื่องความน่าเชื่อถือ พวกเธอสอนผมเรื่องนั้นอีกครั้ง ผมคิดว่ายิ่งเราประสบความสำเร็จ คุณจะต้องการการยอมรับโดยไม่รู้ตัว คุณอาจเสียความเป็นตัวเอง อาจบอกตัวเองว่านั่นไม่ใช่ความจริง พวกเธอสอนผมเรื่องความน่าเชื่อถือ เช่นเดียวกับเลดี้ เรเวน สิ่งที่ผมอยากให้เธอเป็นและรู้ว่าจะเป็นได้แน่ เพราะซาลีก้ามีศิลปะอยู่ในตัว ผมพูดว่า “ซาลีก้านี่คือเรื่องราวที่จะเกิดขึ้น นี่คือตัวละครที่พ่อแต่งขึ้นมา เธอสัมผัสได้ถึงมุมมองของผู้ชม นี่คือผู้คนที่รักเธอและคือเหตุผลของเธอ นี่คืออัลบั้มล่าสุดของเธอ ลูกช่วยแต่งมุมนี้ลงไปสำหรับตัวละครนี้ได้ไหม?” เราคุยกันเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ จากนั้นก็มีเพลงทยอยออกตามมา ซาลีก้าแต่งเพลงเหล่านั้นออกมาได้ ทุกครั้งเธอจะพูดว่า “หนูมีเพลงมาอีกนะ” มันเหมือนคริสต์มาสและผมอดใจรอฟังแทบไม่ไหว และทุกครั้งผมจะรู้สึกหวาดหวั่น เวลาที่เราได้อยู่กับศิลปินไม่ว่าจะเป็นจอชหรือซาลีก้า ผู้ที่อยู่ในจังหวะที่เหมาะสมและพวกเขาสามารถได้ยินเสียงของตัวเอง มันเหมือนเรื่องเหนือความคาดหมายของผู้กำกับฯ และผู้สร้างเลยละ ผมหวังว่าผู้ชมจะสัมผัสได้ถึงความสมจริงและความมหัศจรรย์ของเสียงดนตรี

การถ่ายทำภาพยนตร์

ผมไม่รู้ว่าทำไมพูดได้เต็มปากว่าผมรักฟิล์มมากกว่าดิจิตอล ขอเริ่มจากความรักที่มีต่อข้อจำกัด ผมทำงานกับฟิล์มแล้วรู้สึกว่าต้องคิดถึงวิธีการสร้างสิ่งที่ดีที่สุดออกมา เพราะนั่นรวมถึงเคมี ความสมจริง ความเป็นธรรมชาติในสิ่งที่เกิดขึ้น มันต้องดูมีชีวิตชีวา ถ่ายทอดชีวิตและประสบการณ์ในแบบที่ดิจิตอลทำไม่ได้ ฟิล์มเหมือนตัวแทนของชีวิต และที่น่าแปลกคือดิจิตอลมีรายละเอียดมากกว่าภาพยนตร์ ฉะนั้นนั่นอาจเป็นคำตอบได้ เราแค่ต้องการถ่ายทอดรายละเอียดออกมาให้ได้มากที่สุด สิ่งนั้นให้ความรู้สึกอย่างไร และเราจัดการส่วนที่เหลือ เราเสริมประสบการณ์ความรู้ของเราเข้าไป ส่วนคอมพิวเตอร์จะบอกว่าสีแดงควรมีหน้าตาแบบนี้ และเส้นผมให้ความรู้สึกแบบนี้ แต่ในส่วนของข้อจำกัด ฟิล์มจะสร้างความสัมพันธ์ต่อผู้ชมในด้านความมีชีวิตชีวา มีหลายรายละเอียดที่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความสับสนและเราหยุดนิ่ง ฟิล์มให้รายละเอียดของการเล่าเรื่องราวเฟรมนั้นในปริมาณที่เหมาะสม ในเฟรมนั้นมีอะไรบ้าง? ตัวละครต่างๆ แสงสว่างและทุกอย่าง มันมีความไม่สมประกอบเกิดขึ้นในบางส่วน มันต้องการความเรียบง่ายแค่นั้นแหละ และอาจเป็นเพราะหนังเรื่องโปรดของผมทั้งหลายในวัยเด็กถ่ายทำด้วยฟิล์มเลยทำให้ผมรู้สึกอะไรแบบนั้น

มันวิเศษมากที่สัมผัสได้ถึงลมหายใจและจังหวะการเคลื่อนไหวของภาพยนตร์ เพราะมันแทบจะไม่มีการหลุดโฟกัสเลย มีชีวิตชีวาและมีจังหวะเคลื่อนไหว ผมคิดว่ามันช่วยสร้างประสบการณ์ที่มีความแตกต่างชัดเจน

การเก็บภาพคอนเสิร์ต

ผมไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของซีจี พอผมเลือกจะจัดคอนเสิร์ต ผมบอกทุกคนว่า “เราจะจัดงานและเก็บภาพคอนเสิร์ตจริง เราจะไม่แหกตาอะไรทั้งนั้น” และผมเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ที่ต้องการมุมมองที่ชัดเจนตื่นเต้น ตัวละครหลักของเรากำลังดูคอนเสิร์ตนี้จากที่นั่งมุมที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ นั่นคือภาพจากมุมของพวกเขา และพวกเราจะอยู่กันที่มุมนั้น แต่เราจะถ่ายทอดภาพบนหน้าจอว่าทุกคนดูคอนเสิร์ตจากที่นั่งมุมไม่ดีได้อย่างไร บนหน้าจอจะเห็นออกมามุมไหน? นี่คือความท้าทายในการรักษาความซื่อสัตย์นั้นไว้ ผมต้องหาทางถ่ายทอดมันออกมาได้ สุดท้ายผมต้องกำกับการแสดงสดในสิ่งที่คุณจะได้เห็นบนหน้าจอของแต่ละเทค นักแสดงจะทำการแสดงไปและผมจะสวมหูฟังไปพร้อมกับทุกคน “ซูมไปที่ตรงนั้นหน่อย” และเราได้ภาพคอนเสิร์ตจริงแบบสดๆ สิ่งที่เห็นในฉากช่วงที่คูเปอร์และไรลีย์กำลังคุยกันคือสิ่งที่เกิดขึ้น มันมีความสมจริงเพราะมันเกิดขึ้นจริง ไม่ได้อาศัยซีจี ไม่มีการคิดจะใส่อะไรทีหลัง เรานึกถึงเรื่องนี้อย่างจริงจังกันตั้งแต่ช่วงแรกของการเตรียมตัวเพื่อถ่ายทำ ทั้งเรื่องเพลง เสื้อผ้า ท่าเต้น การจัดแสงไฟในการแสดง มันมาจากความตั้งใจของเฮอร์คิวลีนที่สร้างคอนเสิร์ตขึ้นมาและจัดให้เหมาะสำหรับการถ่ายทำฉากระทึกขวัญของเรา ฉากที่เกิดขึ้นระหว่างจอชกับอารีขณะที่กลุ่มนักเต้นกำลังแสดงไปพร้อมเสียงดนตรีและมีการเปลี่ยนไฟ… มันคือสิ่งที่ผมไม่มีโอกาสได้ทำแบบนั้นเลย และผมไม่คิดว่าตัวเองจะได้ทำอะไรแบบนั้นบ่อยๆ สำหรับการเล่าเรื่องราว มันมีความท้าทายสูงมาก แต่ก็ได้ผลรางวัลกลับมาสูงมากเช่นกัน มันคือความงดงามในการสร้างงานศิลปะทั้งหมดนี้ออกมา จากนั้นนำมารวมกันจนกลายเป็นศิลปะรูปแบบนี้

การร่วมงานกับตากล้อง สยมภู มุกดีพร้อม

อย่างแรกเลยในการพบกับซาโยเหมือนกับการได้พบกับพระพุทธเจ้า เขาเป็นคนร่าเริง ดูสงบ และจิตใจดี เขาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านประมงในเมืองไทย นั่นคือตัวตนของเขา เขารักภาพยนตร์และรักการสร้างภาพยนตร์ เขาสร้างภาพยนตร์ทั้งในเอเชียและยุโรป ผมรักเรื่อง Call Me by Your Name ผมคิดว่ามันมีความกล้ามาก พวกเขาถ่ายทำโดยใช้เลนส์เดียวและสร้างความเหลือเชื่อทั้งหมดขึ้นมาได้ เขายังเป็นคนชอบศึกษาธรรมชาติด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมาก ผมชอบคิดว่าตัวเองมักจะพบความมหัศจรรย์ในจักรวาลอยู่เสมอ เขาเองก็เช่นกัน เขาเป็นคนที่ร่วมงานด้วยง่าย เขาทำให้ขั้นตอนการสร้างภาพยนตร์ในโปรเจ็กต์นี้ดูเรียบง่ายมาก เราต่างสนใจภาพยนตร์เหมือนกัน เราต้องการตากล้องที่เข้าใจการสาดแสงไฟแบบนี้ และมีความทุ่มเทกับภาพยนตร์มาก มีสิ่งที่เราต้องการและมีความรู้ความสามารถอย่างลึกซึ้ง และมีความเข้าใจทุกเรื่องโดยสัญชาตญาณ เขามีทุกอย่างเลย ผคิดว่าเขาสร้างรายละเอียดให้ผลงานทริลเลอร์เรื่องนี้จนคุณจะสัมผัสได้ และมันสร้างบรรยากาศต่อเนื่องระหว่างที่ดูหนัง สุดท้ายคุณจะออกจากโรงด้วยบรรยากาศแบบโกธิค

*TRAP กำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ 1 สิงหาคมนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *