ผลงานจากดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชัน ภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่ดัดแปลงจากผลงานวรรณกรรมที่โด่งดัง The Wild Robot หนังสือขายดีอันดับหนึ่งในนิวยอร์กไทมส์ที่ได้รับรางวัลมากมายจากนักเขียนชื่อดัง ปีเตอร์ บราวน์ การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่และการเดินทางของหุ่นยนต์ ROZZUM รุ่น 7134 หรือเรียกสั้น  ๆ ว่า รอซ ซึ่งเรืออับปางและติดอยู่บนเกาะร้างที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ รอซต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ค่อยๆ สร้างความสัมพันธ์กับสัตว์บนเกาะ และกลายเป็นแม่บุญธรรมของลูกห่านกำพร้าตัวหนึ่ง

The Wild Robot นำแสดงโดยนักแสดงรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ลูพิตา นยองโง (Us, แฟรนไชส์ The Black Panther) ในบทหุ่นยนต์ รอซ, นักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมีและลูกโลกทองคำ เปโดร ปาสคาล (The Last of Us, The Mandalorian) ในบทสุนัขจิ้งจอก ฟิงค์, นักแสดงรางวัลเอ็มมี แคทเธอรีน โอ’ ฮารา (Schitt’s Creek, Best in Show) ในบทตัวพอสซัม พิงค์เทล, นักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ บิล ไนฮีย์ (Living, Love Actually) ในบทห่าน ลองเน็ค, นักแสดงรางวัลเอ็มมี คิท คอนเนอร์ (Heartstopper, Rocketman) ในบทลูกห่านน้อย ไบรท์บิล และนักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ สเตฟานีย์ ซู (Everything Everywhere All at Once, The Fall Guy) ในบทวอนทร้า หุ่นยนต์ที่จะมาแทรกแซงชีวิตบนเกาะแห่งนี้ของรอซ

ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังพากย์เสียงโดยไอคอนแห่งป๊อปคัลเจอร์ที่ได้รับรางวัลเอ็มมี มาร์ค ฮามิล (แฟรนไชส์ Star Wars, The Boy and the Heron) ในบทหมีกรีซลีย์ ธอร์น, แมทท์ เบอร์รี (What We Do in the Shadows, แฟรนไชส์ The SpongeBob Movie) ในบทบีเวอร์ แพดเดลอร์ และนักแสดงผู้ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำและได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมี วิง รามส์ (แฟรนไชส์ Mission: Impossible, Pulp Fiction) ในบทเหยี่ยวธันเดอร์โบลท์

เรื่องราวอันทรงพลังเกี่ยวกับการค้นพบตัวตน บททดสอบอันน่าตื่นเต้นระหว่างเทคโนโลยีและธรรมชาติ และการค้นหาความหมายของการมีชีวิตและการเชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด The Wild Robot เขียนบทและกำกับโดยผู้กำกับเจ้าของสามรางวัลออสการ์ คริส แซนเดอร์ส มือเขียนบทและผู้กำกับจากภาพยนตร์ดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชันเรื่อง How to Train Your Dragon, The Croods และภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง Lilo & Stitch

และนี่คือ 4 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด The Wild Robot

วรรณกรรมชั้นเยี่ยมสู่ภาพยนตร์ชั้นยอด

The Wild Robot โดยปีเตอร์ บราวน์ เป็นนิยายที่มีภาพประกอบสำหรับนักเรียนระดับมัธยมต้น ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2016 กลายเป็นปรากฏการณ์ที่พุ่งขึ้นถึงอันดับหนึ่งในลิสต์เบสต์เซลเลอร์ของนิวยอร์ก ไทม์ นับตั้งแต่นั้นมาหนังสือเล่มนี้ก็ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับไตรภาคที่ตอนนี้รวมถึง The Wild Robot Escapes และ The Wild Robot Protects ผลงานของบราวน์ในซีรีส์ Wild Robot และหนังสือเบสต์เซลเลอร์เรื่องอื่นๆ ของเขาทำให้เขาได้รับรางวัลคัลเดอคอทท์ ออเนอร์, รางวัลฮอร์น บุ๊ค อวอร์ด, สองรางวัลอี.บี. ไวท์ อวอร์ด, สองรางวัลอี.บี. ไวท์ ออเนอร์ส, รางวัลชิลเดรนส์ ชอยส์ อวอร์ดสาขานักวาดภาพประกอบแห่งปี, สองรางวัลเออร์มา แบล็ค ออเนอร์ส, รางวัลโกลเดน ไคท์ อวอร์ดและรางวัลหนังสือที่มีภาพประกอบยอดเยี่ยมโดยนิวยอร์ก ไทม์

ป่าแบบมิยาซากิที่วาดโดยโมเนต์

ทีมสร้างมีความตั้งใจที่จะสร้างอัตลักษณ์ทางวิชวลที่ซับซ้อนและมีเอกลักษณ์ให้กับเรื่องราวแสนพิเศษนี้ตั้งแต่เริ่มต้น ฉากเกาะจึงเป็นผืนผ้าใบที่สมบูรณ์แบบที่จะนำเสนอสไตล์แอนิเมชันแบบภาพวาดที่โดดเด่น โดยเลือกใช้ลักษณะแบบภาพวาดที่ได้แรงบันดาลใจจากผลงานสไตล์นี้ของดรีมเวิร์คส์ในช่วงหลังๆ ซึ่งนำเสนอทั้งความสง่างาม พลัง และความพลิ้วไหวแบบบทกวี แนวทางนี้ให้น้ำหนักไปที่ภาพวาดที่มีมิติ เน้นย้ำถึงรายละเอียดที่เปี่ยมความรู้สึกมากกว่าความสมจริงที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการนำเสนอภาพสัตว์ในหนังดิสนีย์คลาสสิกยุคเริ่มแรกอย่าง Bambi และจากป่าที่ช่วยสร้างบรรยากาศในหนังของฮายาโอะ มิยาซากิ ด้วยการใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของดรีมเวิร์คส์ ผลลัพธ์คืองานแอนิเมชันที่มีเอกลักษณ์โดยสมบูรณ์ ลองจินตนาการถึงป่าแบบมิยาซากิที่โลดแล่นมีชีวิตผ่านทางผลงานของคล็อด โมเนต์ดู

รอซซัม 7134 หรือ รอซ โดยลูพิตา นยองโง

รอซซัม 7134 หรือ รอซ พากย์เสียงโดยนักแสดงรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ลูพิตา นยองโง รอซที่ออกแบบโดยยูนิเวอร์แซล ไดนามิกส์ เป็นหุ่นยนต์ระดับสูง ที่ต้องมาติดอยู่บนเกาะร้างโดยปราศจากการสั่งการจากมนุษย์ ทำให้เธอต้องสร้างเป้าหมายของตัวเธอเองขึ้นมา เป้าหมายของเธอชัดเจนขึ้นเมื่อเธอค้นพบไข่ห่าน ที่กระตุ้นให้เธอทะนุถนอมและเลี้ยงดูลูกห่านน้อยขึ้นมา

นักวาดภาพและแอนิเมเตอร์ได้สร้างพฤติกรรมของรอซขึ้นมาจากมุมมองของนยองโง ด้วยการรวมคุณสมบัติอย่างความไร้เดียงสา ความมุ่งมั่น ความยุ่งยากในการทำความเข้าใจและความตรงไปตรงมา โดยก่อนหน้าการบันทึกเสียงทุกครั้งจะมีการพูดคุยกันอย่างกว้างขวางและเซสชันระดมความคิดกับลูพิตา ซึ่งนำไปสู่การปรับแก้บทในแบบที่จะช่วยยกระดับฉากต่างๆ พรสวรรค์ของลูพิตาอยู่ตรงที่ความเข้าใจตัวละครและผลกระทบที่มีต่อเรื่องราวของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง เพื่อทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราวแทนที่จะเป็นแค่ผู้โดยสาร

ดนตรีโดยผู้ประพันธ์ระดับออสการ์

ดนตรีมีพลังพิเศษระหว่างการถ่ายทำ เพราะไม่ได้เป็นเพียงเสียงที่เปิดคลอเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นสิ่งที่เล่าเรื่องราวได้ด้วยเช่นกัน การเรียบเรียงเสียงอย่างพิถีพิถันทำให้ฉากต่างๆ ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นประสบการณ์ที่สะเทือนอารมณ์ แทนที่จะเป็นเพียงแค่ภาพวิชวลที่น่าตื่นตาตื่นใจเท่านั้น ใน The Wild Robot การร้อยเรียงระหว่างเรื่องราวและดนตรีทำให้เกิดความยอดเยี่ยมที่ไม่มีใครเทียบได้ ภายใต้ฝีมือของนักประพันธ์รางวัลออสการ์ คริส โบเวอร์ส ผู้เป็นที่รู้จักจากผลงานของเขาในฐานะผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์สารคดีขนาดสั้นที่ได้รับรางวัลอคาเดมี อวอร์ดปี 2023 เรื่อง The Last Repair Shop

*The Wild Robot กำหนดเข้าฉาย 17 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์