เรียกว่าเป็นสุดสัปดาห์แห่งความฟินของ YG Stan ก็ว่าได้ ทั้งนี้ต้องขอบคุณพี่กึ้ง เฉลิมชัย แห่ง 411ENT ที่จัดให้ทั้งไอคอนิกและอินซอได้สนุกสนานกับคอนเสิร์ตของสองวงโปรดทั้งศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ กันไปเลย
เริ่มที่ iKON ก่อนตามลำดับการเล่น กลับมาเล่นคอนเสิร์ตในไทยเป็นครั้งที่ 2 แต่เป็นครั้งแรกที่มีการแถลงข่าว แม้นักข่าวจะทำได้แค่นั่งมองหน้าและบันทึกเสียง โดยไม่สามารถถ่ายภาพถ่ายวิดีโอใดๆ แต่ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้เห็น 7 หนุ่ม บีไอ บ๊อบบี้ จินฮวาน จุนฮเว ยุนฮยอง ดงฮยอก ชานอู มานั่งให้ดูใกล้ๆ พร้อมพูดคุยที่ก็มีความน่าเอ็นดูมากๆ จนอยากจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายให้แฟนๆ ได้เห็น แต่ไม่ได้ค่ะ พี่การ์ดยืนจ้องเขม็งอยู่นั่น ก็เอาเป็นว่าแรกๆ แม้จะยังดูมีความเกร็งๆ แต่เมื่อคำถามผ่านไป และยิ่งเข้าสู่เรื่องเมืองไทย อาหารไทย ภาษาไทย ทั้งเจ็ดก็ยิ่งสนุกสนานฮาเฮ บีไอย้ำว่าอยากกินปูผัดผงกะหรี่อยู่หลายรอบ ช่วงสอนภาษาไทยพี่จุนเน่คนแมนก็ให้เอ็มซียูสอนคำว่า “เอาช้างกูคืนมา” แบบที่จา พนม พูดในเรื่ององค์บาก ตรงนี้อยากชมว่าคุณน้องมีความสนใจใส่ใจจริงๆ นะ เพราะนางเล่าว่าตอนดูที่เกาหลี มีซับไตเติ้ลขึ้น แต่มันไม่ตรงกับคำที่ได้ยิน เลยขอให้ช่วยสอนคำที่พี่จาพูดจริงๆ ให้หน่อย ก็ได้ “เอาช้างกูคืนมา” ไปฝึกสมใจ “ขอเสียงหน่อย” ก็มี เหล่านี้ก็ได้ยินกันไปแล้วในคอนเสิร์ตเนอะ
ตัดฉับมาที่ธันเดอร์โดม ก็อย่างที่รู้กันว่าบัตรโซลด์เอ๊าท์ทั้งสองรอบ ที่นั่งเลยเต็มเอี้ยดและส่วางไสวไปด้วยทะเลไฟสีแดงสร้างบรรยากาศร้อนแรงคึกคักตั้งแต่นาทีที่ทั้งเจ็ดปรากฏตัวบนเวทีในคอสตูมเสื้อแดงระยิบวิบวับพร้อมไลท์ติ้งสีแดงในเพลง Bling Bling แล้วเท่กันต่อยาวๆ ไป กับ Sinosijak และ Rythm Ta (Rock Ver.) ก่อนจะเข้าสู่ช่วงพูดคุยที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินค่าย YG คือสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องมีล่ามภาษาเกาหลี (และอังกฤษ) แต่อย่างใด เรียกว่าศิลปินจะต้องฝึกอิงลิชมาในระดับหนึ่ง คนดูก็จะต้องมีทักษะภาษาปะกิตมาในระดับหนึ่งเช่นกัน อันนี้ส่วนตัวเราว่าดี ศิลปินยังพยายามเรียนรู้เพื่อแฟนๆ แฟนๆ ที่อาจจะยังอ่อนอังกฤษก็ควรต้องเรียนรู้เพื่ออปป้า #เป็นติ่งก็มีคุณภาพนะเออ สลับด้วยภาษาไทยเล็กน้อยตามธรรมเนียม อาทิ “สวัสดี แบงคอก แฟนๆ ชาวไทยขอเสียงหน่อย รักนะจุ๊บๆ ผมรักคุณครับ”
ช่วงถัดมาเป็นเพลงในบรรยากาศซัมเมอร์ริมทะเล Cocktail และ Only You แล้วเปลี่ยนฟีลเป็นเพลงซึ้งๆ อย่าง Perfect โดยทีมโวคอล-จินฮวาน ยุนฮยอง จุนฮเว ดงฮยอก ชานอู ตามด้วยโซโล่ One and Only ของบีไอ และ Holup ของบ๊อบบี้ ก่อนเจ็ดหนุ่มจะกลับมารวมทีมชวนสนุกกับเพลง Anthem, B-Day, My Type, Rubber Band ที่จินฮวานอ้อนเป็นภาษาไทยว่า “รักผมไหมครับ” แถมอีกประโยค “ผมเป็นคนฮ็อต” แต่ประโยคหลังนี้พยายามอยู่หลายรอบกว่าไอคอนิกจะเข้าใจ เลยได้ขำขันกันไปอีก แต่ถามว่าเข็ดไหม ตอบเลยว่าไม่ เพราะจินฮวานมีแถมร้องเพลง Love Scenario เวอร์ชั่นแปลงเป็นภาษาไทย “ยินดีที่ได้เจอกันนะครับ สวัสดีครับ ผมรักคุณครับ ผมคิดถึงคุณครับ” อีกด้วย แต่ที่เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นคือการเปิดเสื้อโชว์ซิกซ์แพ็กตั้งสองรอบของจุนเน่ แล้วสนุกมุ้งมิ้งกันต่อกับ Best Friend และ Everything ที่หนุ่มๆ จับคู่เต้นด้วยกันน่าเอ็นดู๊ ส่วนเมมเบอร์หนึ่งคนที่ไร้คู่ก็รับหน้าที่พิเศษไป รอบวันศุกร์ที่เราดูทุกคนพร้อมใจให้ จุนเน่ ใส่ชุดลูกเจี๊ยบสีเหลืองออกมาเต้นดุ๊กดิ๊ก ด้วยเหตุผลว่าเพราะทั้งครอบครัวตามมาให้กำลังใจที่ประเทศไทยกันหมด #เขยไทย
แล้วก็มาถึงเพลงที่ไม่มีไอคอนิกคนไหนไม่รู้จัก Love Scenario ต่อด้วย Goodbye Road ที่เป็นการแสดงครั้งแรกในไทย เป็น 1 ใน 2 เพลงที่รอดูเป็นการส่วนตัวเพราะชอบมากกกกกกก และอยากรู้ว่าถ้าดูสดจะดีเหมือนดูผ่านจอไหม ซึ่งปรากฏว่าดีงามพระรามแปดสมกับที่อยากดู ขนาดมองจากข้างหลัง (เนื่องจากรันเวย์ยาวมาก พุ่งไปเกือบถึงหน้าอัฒจันทร์) ก็ยังสวย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของ YG เต้นเบาๆ เต้นนุ่มๆ เต้นแบบถนอมเส้นเอ็น แต่ดูดีดูเพลินดูสบายตาสุดๆ และขอบคุณค่ะที่ KIlling Me ย้ายกลับมาเพอร์ฟอร์มที่เมนสเตจ ได้เห็นไลน์เต้นเท่ๆ แบบชัดๆ เต็มๆ ตา คือดี อยากดูก็อยาก อยากเต้นไปด้วยก็อยาก โห้ย ชีวิตยากไปอีกกกกกก ปิดด้วย Freedom ที่บรรยากาศระอุคุกรุ่นได้ที่ เจ็ดหนุ่มเลยต้องกลับมาในช่วงอังกอร์กับเพลง Just For You และ Love Scenario แล้วอำลากันไปด้วย Don’t Let Me Know และ Dumb & Dumber ที่ทั้งเจ็ดเดินเซอร์วิสไปทั่วเวที ชวนไอคอนิกกระโดดโลดเต้นไปด้วยกัน พร้อมภาษาไทยน่าเอ็นดู “รักหนูไหม” #โอ๊ยใครสอนนนนน เก็บเป็นความทรงจำดีๆ จนกว่าจะเจอกันใหม่…
Photos: YG ENTERTAINMENT